ชื่อ
– สกุล
นายเซะแยนา สาเหะอุเซ็ง เกิดวันที่ 7 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2521 อายุ 47 ปี
ที่อยู่บ้านเลขที่
76
ม. 2 ตำบลเกาะเปาะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
รหัสไปรษณีย์ 94170
เบอร์โทรศัพท์
085-2277608
ประวัติความเป็นมา
ว่าว
เป็นหนึ่งในงานหัตถกรรมและกิจกรรมนันทนาการที่มีประวัติยาวนานทั่วโลก
โดยเฉพาะในเอเชีย ว่าวมีบทบาททั้งในด้านความบันเทิง พิธีกรรม และการทหารในอดีต ว่าวมีต้นกำเนิดมานานกว่าสองพันปี
โดยมีหลักฐานว่าถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน ราว 200 ปีก่อนคริสตกาล นักปราชญ์จีนชื่อ โม่จื้อ (Mozi)
และ หลู่ปัง (Lu Ban) ได้สร้างว่าวจากไม้ไผ่และผ้าไหมสำหรับใช้ในสงครามเพื่อลาดตระเวนศัตรู
จากนั้น ว่าวได้แพร่กระจายไปยังญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดีย
ผ่านเส้นทางการค้าทางทะเล
ในประเทศไทย
ว่าวเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ากษัตริย์ไทยหลายพระองค์โปรดปรานการเล่นว่าว
เช่น ในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้มีการแข่งขันว่าวในพระบรมมหาราชวัง
ประเภทของว่าวไทยที่เป็นเอกลักษณ์
ได้แก่
1.
ว่าวจุฬา – มีลักษณะคล้ายดาวห้าแฉก เล่นกันเป็นทีม
2.
ว่าวปักเป้า – รูปทรงคล้ายปลาปักเป้า นิยมแข่งขันกับว่าวจุฬา
3.
ว่าวงู – ลำตัวยาวคล้ายงู
เคลื่อนไหวพลิ้วไหวเมื่ออยู่บนฟ้า
4.
ว่าวดุ๊กดิ๊ก – มีหางและปีกที่เคลื่อนไหวได้เองตามแรงลม
ว่าวเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญต่อหลายประเทศ
รวมถึงประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นของเล่น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปะพื้นบ้านที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดต่อไป
จุดเด่นของภูมิปัญญาท้องถิ่น
การทำว่าวเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมของชุมชนไทย
มีจุดเด่นหลายประการที่น่าสนใจ:
1.
การใช้วัสดุธรรมชาติและท้องถิ่น: ช่างทำว่าวมักเลือกใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น
เช่น ไม้ไผ่สีสุก ซึ่งมีความเหนียวและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับทำโครงว่าว
2.
ความประณีตและความแม่นยำในการสร้างสรรค์: การทำว่าวต้องอาศัยความละเอียดอ่อนและความแม่นยำในการวัดสัดส่วนและประกอบโครง
เพื่อให้ว่าวสามารถลอยขึ้นฟ้าได้อย่างสมดุล
3.
การสืบทอดวัฒนธรรมและประเพณี: การเล่นว่าวเป็นกิจกรรมที่มีมานานกว่า 700
ปีในประเทศไทย
โดยเฉพาะในภาคใต้ เช่น จังหวัดสตูล ที่มีว่าวควายเป็นเอกลักษณ์
4.
การออกแบบที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น: ว่าวแต่ละประเภทมีรูปทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
เช่น ว่าวจุฬาที่มีห้าแฉก หรือว่าวควายที่มีรูปทรงคล้ายควาย
5.
การประยุกต์ใช้ในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว: ปัจจุบันมีการนำภูมิปัญญาการทำว่าวมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ระลึก
และจัดงานเทศกาลว่าวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
ความร่วมมือกับ
สกร.
แสดงความคิดเห็น